ข่าวดีผู้ป่วยเบาหวาน Apple ซุ่มวิจัยให้ Apple Watch ตรวจน้ำตาลในเลือดได้ ไม่ต้องใช้เข็มเจาะ

ข่าวดีผู้ป่วยเบาหวาน Apple ซุ่มวิจัยให้ Apple Watch ตรวจน้ำตาลในเลือดได้ ไม่ต้องใช้เข็มเจาะ

ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งใหญ่ในวงการเทคโนโลยี หลังมีรายงานว่า Apple กำลังซุ่มวิจัยพัฒาให้ Apple Watch สามารถตรวจหาระดับน้ำตาลในเลือดได้โดยที่ไม่ต้องเจาะผิวหนัง

โดยตอนนี้โปรเจ็กต์ดังกล่าวอยู่ในขั้นตอน “proof-of-concept stage” แล้ว และหากอุปกรณ์ตรวจจับมีขนาดเล็กลงเมื่อไหร่ ก็น่าจะพร้อมออกสู่ตลาดได้

และหากเทคโนโลยีที่ว่านั้นสมบูรณ์แบบ ความก้าวหน้าดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยโรคเบาหวาน และช่วยให้ Apple เป็นตัวแม่แห่งวงการดูแลสุขภาพ

ซึ่งก็เป็นเป้าหมายสูงสุดของ Apple ที่จะทำให้ Apple Watch สามารถตรวจน้ำตาลในเลือดได้ เพราะนั่นจะทำให้ Apple Watch กลายเป็นอุปกรณ์จำเป็นสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานหลายล้านคนทั่วโลก

โดยเทคโนโลยีการตรวจหาน้ำตาลดังกล่าว เป็นการใช้เลเซอร์วัดความเข้มข้นของกลูโคสใต้ผิวหนัง ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ Apple พัฒนามา อุปกรณ์ดังกล่าวมีขนาดเท่าโต๊ะ แต่ล่าสุดมีรายงานตัวต้นแบบที่สวมใส่ได้นั้นมีขนาดเล็กลงเหลือเท่า iPhone แล้ว

ทั้งนี้ ระบบดังกล่าวจะไม่เพียงช่วยผู้ป่วยโรคเบาหวานในการตรวจสอบระดับน้ำตาลของตัวเองเท่านั้น แต่ยังแจ้งเตือนให้กับผู้ที่เสี่ยงเป็นโรคเบาหวานอีกด้วย ซึ่งก็จะช่วยให้คนกลุ่มนี้ดูแลตัวเองมากขึ้น ป้องกันการกลายเป็นผู้ป่วยเบาหวานประเภท 2

ขณะที่ Apple ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นต่อข่าวล่าสุดนี้

อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวได้รับการพัฒนามาเป็นเวลานาน โดยเริ่มขึ้นในปี 2010 เมื่อสตีฟ จ็อบส์ ล้มป่วย ได้ให้บริษัทซื้อสตาร์ทอัพที่พัฒนาตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดอย่าง RareLight

แม้ Apple จะพยายามเก็บโปรเจ็กต์นี้ไว้เป็นความลับ ด้วยวิธีการไปดำเนินการภายใต้บริษัทอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับ Apple แต่ก็ดันพบว่าดันมีชื่อของ Tim Cook ซีอีโอ, Eugene Kim หัวหน้าแผนกฮาร์ดแวร์ Apple Watch และผู้นำระดับสูงคนอื่นๆ มีส่วนร่วมในบริษัทเหล่านั้นด้วย

แต่ถึงอย่างนั้น Bloomberg ความก้าวหน้าดังกล่าวยังดูห่างไกลความเป็นจริง และคงต้องใช้เวลาอีกหลายปีถึงจะพัฒนาได้สำเร็จ

เพราะมองในภาพรวมอุตสาหกรรม ก็ยังไม่มีใครทำได้สำเร็จ เช่น Verily บริษัทด้านสุขภาพในเครือของ Alphabet ก็ได้ยกเลิกแผนสำหรับคอนแทคเลนส์อัจฉริยะที่จะติดตามระดับน้ำตาลจากน้ำตาไป

แม้แต่แบรนด์ใหญ่ที่มีทรัพยากรมากมายก็ไม่รับประกันว่าจะประสบความสำเร็จ และยังไม่ชัดเจนว่าโซลูชันของ Apple จะแม่นยำขนาดไหนด้วย

แต่ถ้า Apple ทำได้จริง Apple Watch จะกลายเป็นผู้นำในกลุ่มนาฬิกาอัจฉริยะไปได้ทันที และก้าวเข้าสู่ตลาดเพื่อสุขภาพได้อย่างเต็มตัว